เพชรเกสร VS เพชรกุหลาบ

เพชรเกสร VS เพชรกุหลาบ

Brilliant cut หรือ เพชรเกสร เป็นเพชรมาตราฐานในปัจจุบัน เป็นการเจียระไนเพชรโดยมี 56-59 เหลี่ยมที่ได้ทรงสมมาตรสวยงามอย่างที่สุด ทำให้เพชรสามารถสะท้อนแสง ส่องประกาย แวววาวได้สูงสุด ซึ่งเป็นมาตรฐานเพชรส่วนมากที่ใช้ทำเครื่องประดับในปัจจุบัน โดยรูปทรงเพชร Brilliant cut จะประกอบไปด้วย ส่วน Crown หรือหน้าเพชร, Girdle หรือขอบเพชร, Pavilion หรือส่วนก้นเพชร โดยทั้ง 3 ส่วนจะมีการเจียระไนเหลี่ยมมุมอย่างได้สัดส่วน เพื่อเพิ่มการสะท้อนแสงไฟ

Rose cut, Single cut, Old cut หรือ เพชรกุหลาบ เป็นเพชรเหลี่ยมโบราณ หรือมักจะเรียกกันว่า “เพชรเหลี่ยมเก่า” หรือ “เพชรซีก” หรือ “เพชรลูกโลก” เป็นการเจียระไนแบบดั้งเดิมที่ยังไม่มีการพัฒนาในการคำนวนการสะท้อนแสงมากนัก ส่วนมากมักมีเพียง 10-16 เหลี่ยมเท่านั้น โดยรูปทรงเพชรนั้น มีหลายรูปทรง แต่โดยมากจะมีเพียงส่วนของ Crown หรือหน้าเพชร, เท่านั้น ไม่มีส่วนขอบและก้นเพชร ส่วนมากเพชรจะมีความบาง หน้าใหญ่ สะท้อนแสงไฟได้น้อย ไม่ค่อยมีประกายมากนักหากเทียบกับเพชรเกสร Brilliant cut

เพชรกุหลาบปัจจุบันไม่ค่อยเป็นที่นิยมมากนัก ส่วนในปัจจุบันมักใช้กับงานเลียนแบบงานโบราณ หรือดีไซน์Vintage หรือความชื่นชอบส่วนบุคคล และจะหาเพชรที่คุณภาพดีได้ค่อนข้างยาก เนื่องจากเพชรคุณภาพสูงเมื่อนำไปเจียระไนแบบ Brilliant cut ก็จะทำให้มีมูลค่าที่มากกว่า จึงทำให้เพชรกุหลาบในปัจจุบันมีราคาค่อนข้างถูกกว่าเพชรเกสรอย่างมาก

แหล่งเจียระไนเพชรเกสร Brilliant cut ที่สำคัญๆ คือ ประเทศเบลเยี่ยม (เพชรเบลเยี่ยมคัต), ประเทศรัสเซีย (เพชรรัสเชี่ยนคัต), ประเทศไทย (บางกอกคัต) เป็นต้น ส่วนเพชรกุหลาบ Rose cut ส่วนมากจะถูกเจียยระไนมาจากประเทศอินเดีย (เพชรอินเดีย) และประเทศศรีลังกา เพราะเทคโนโลยีและคุณภาพการเจียระไนยังไม่ทัดเทียมกับประเทศอื่นๆข้างต้น

สาเหตุที่ทำให้เพชรกุหลาบ (Rose cut) ขายยาก ร้านรับซื้อเครื่องประดับมือสองมักปฏิเสธ ไม่รับซื้อกันบ่อยๆ เนื่องจากเพชรกุหลาบมีรูปทรงและเนื้อเพชรค่อนข้างบาง และมีตำหนิมาก เป็นการยากที่จะแกะเพชรกุหลาบออกจากตัวเรือนเดิมเพื่อนำมาผลิตชิ้นงานใหม่ เพราะมีรูปทรงบาง ทำให้เมื่อแกะเพชรกุหลาบออกจากตัวเรือนเดิมก็มักจะแตก บิ่น หัก อยู่เสมอ และอีกประการคือ เพชรกุหลาบ มีความนิยมเพียงเฉพาะกลุ่มในปัจจุบัน ไม่มาตรฐานแพร่หลาย

ปัจจุบันเทคโนโลยีการเจียระไนเพชรเกสร (Brilliant cut) ได้พัฒนาไปเป็นอย่างมาก สามารถที่จะเจียระไนได้มากถึง 100 เหลี่ยม ซึ่งเพิ่มความเป็นประกายให้กับเพชรยิ่งขึ้นไปอีก แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่ของเพชรด้วยว่าจะมีพื้นที่มากพอที่จะเจียระไนเหลี่ยมจำนวนมากได้หรือไม่ และมูลค่าราคาก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่ง ที่ทำให้ความนิยมยังคงอยู่ที่เพชรเกสร 56-59 เหลี่ยม เพราะการเจียระไนเหลี่ยมพิเศษจำนวนมากขึ้น ก็จะต้องใช้เทคโนโลยีพิเศษโดยเฉพาะ รวมถึงค่าแรงในการเจียระไนก็สูงขึ้นเป็นเท่าตัว จึงทำให้เพชรเกสร 100 เหลี่ยม ยังเป็นที่นิยมเฉพาะกลุ่มอยู่

Visitors: 329,430